การมีเว็บไซต์สำหรับธุรกิจหรือแบรนด์ส่วนตัวไม่จำเป็นต้องเริ่มจากศูนย์อีกต่อไป เพราะมี “เว็บสำเร็จรูป” หรือ Website Builder ที่ช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์ได้ง่าย รวดเร็ว และไม่ต้องเขียนโค้ด วันนี้เราขอแนะนำ 5 แพลตฟอร์มยอดนิยม ทั้งจากในไทยและระดับโลก ที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นไปจนถึงมืออาชีพ
จุดเด่น: ใช้งานง่ายด้วยระบบลากวาง (Drag & Drop), เทมเพลตหลากหลายและสวยงามระดับมืออาชีพ, รองรับ SEO
เหมาะสำหรับ: ธุรกิจขนาดเล็ก ร้านค้าออนไลน์ พอร์ตโฟลิโอ
ข้อควรระวัง: แพ็กเกจแบบฟรีมีโฆษณาติด และไม่สามารถเชื่อมโดเมนส่วนตัวได้
จุดเด่น: อินเทอร์เฟซรองรับภาษาไทย 100%, มีทีมบริการลูกค้าไทย, ระบบจัดการร้านค้าระบบสมาชิก เว็บขยายงาน เว็บแม่ทีม affiliate สำหรับคำนวณรายได้ ครบวงจร
เหมาะสำหรับ: ธุรกิจ SME และผู้ประกอบการที่เน้นตลาดไทย
ข้อควรระวัง: ความยืดหยุ่นในดีไซน์อาจน้อยกว่าแพลตฟอร์มต่างประเทศ อาจต้องใช้เวลาศึกษาสักพัก
จุดเด่น: ระบบร้านค้าออนไลน์สมบูรณ์แบบ, รองรับการชำระเงินหลายรูปแบบ, มีปลั๊กอินและแอปเสริมจำนวนมาก
เหมาะสำหรับ: ผู้ขายสินค้าออนไลน์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ข้อควรระวัง: มีค่าธรรมเนียมธุรกรรมเพิ่มเติมหากไม่ใช้ระบบจ่ายเงินของ Shopify
จุดเด่น: มาพร้อมระบบการตลาดแบบ All-in-One ทั้ง Landing Page, CRM, Marketing Automation
เหมาะสำหรับ: ธุรกิจที่เน้นการทำแคมเปญและการตลาดออนไลน์
ข้อควรระวัง: ระบบมีฟีเจอร์เยอะ อาจต้องใช้เวลาศึกษาสักพัก
จุดเด่น: เริ่มต้นง่าย รองรับบล็อก, พอร์ตโฟลิโอ และร้านค้า, มีธีมให้เลือกมากมาย
เหมาะสำหรับ: ผู้เขียนบล็อก, ผู้สร้างเนื้อหา, ผู้เริ่มต้นทำเว็บไซต์
ข้อควรระวัง: ความสามารถในการปรับแต่งมีข้อจำกัดในแพ็กเกจฟรี
แพลตฟอร์ม | จุดเด่น | เหมาะกับใคร |
---|---|---|
Wix | ลากวางง่าย เทมเพลตสวย | ทุกประเภท โดยเฉพาะผู้เริ่มต้น |
Prowebcreate | ทีมไทย ดูแลดี เว็บใช้ง่าย | SME, ธุรกิจในไทย เว็บเครือข่าย MLM |
Shopify | ระบบร้านค้าแน่น | ผู้ขายออนไลน์มืออาชีพ |
ReadyPlanet | ฟีเจอร์การตลาดครบ | สายยิงแอด ทำแคมเปญ |
WordPress.com | เริ่มฟรี ขยายง่าย | บล็อกเกอร์ & คอนเทนต์ครีเอเตอร์ |
หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ที่เหมาะกับตัวเอง ลองพิจารณาจากวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์ งบประมาณ และความต้องการในระยะยาว แล้วเลือกแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ที่สุด เพราะทุกแพลตฟอร์มมีจุดแข็งของตัวเอง!